การเปลี่ยนแปลง เวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางทีก็อาจจะยังไม่พร้อมที่จะปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แต่ว่าสโมสรเริ่มคิดที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน
การเปลี่ยนแปลง เวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางทีก็อาจจะยังไม่พร้อมที่จะปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แต่ว่าสโมสรเริ่มคิดที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนและก็ได้มีการคิดแผนอนาคตเอาไว้เป็นระเบียบแล้ว
โดยจะดึง เบรนแดน ร็อดเจอร์สเข้ามาทำแทน สื่อหลายสำนักในอังกฤษ รายงานตรงกันว่า ร็อดเจอร์สเป็นตัวเลือกแรกที่จะเข้ามาสืบต่องานของ “น้าลูกอม” ซึ่งในขณะนี้กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก
ข้างหลังนำ “ผีแดง” ชนะเพียงแค่ 3 เกมจาก 10 แมตช์หลังสุด ในขณะที่ “บีร็อด” แม้ว่าจะมีความสุขกับการทำงานให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และไม่ค่อยต้องการปฏิบัติงานให้กับแมนฯยูไนเต็ด แม้กระนั้น “เร้ด เดวิลส์” ยังคงเชื่อถือ
พวกเขาสามารถที่จะจับ ที่ปรึกษาชาวไอร์แลนด์เหนือรับงานในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด “จิ้งจอกสยาม” ไม่มีสิทธิ์กีดขวางแม้ ร็อดเจอร์สอยากย้ายไปจับงานชิ้นใหญ่เนื่องจากว่าทั้งสองฝ่ายมีเงื่อนไขในข้อตกลงชี้เอาไว้ว่าทีมดังแห่ง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
จำเป็นจะต้องปล่อยตัว “บีร็อด” ถ้าเขาได้รับการติดต่อจากทีมที่กำลังฟาดลำแข้งในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ร็อดเจอร์สนับว่าบรรลุผลสำเร็จพอควรสำหรับในการคุม เลสเตอร์ ด้วยการนำทีมครองแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา
แม้กระนั้นสิ่งที่เด่นมากยิ่งกว่าซึ่งก็คือสไตล์แนวทางการทำทีมของเขา ซึ่งคงจะเหมาะสมกับขุมกำลังของ “ปีศาจแดง” ที่มีผู้เล่นที่เต็มไปด้วยความสามารถแล้วก็ประสิทธิภาพชั้นเลิศเยอะมาก ถ้า “บีร็อด” เข้ามาจับบังเหียน แมนฯยูไนเต็ด
แน่นอนว่าเขาจะกระทำเปลี่ยน 4 สิ่งด้านในกลุ่ม เพื่อทำให้ “ผีแดง” กลับมาผงาดสู่ความใหญ่โตอีกที ผู้รักษาประตู ตำแหน่งนายทวารถือเป็นพื้นที่ที่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดีพอสมควร แม้ว่าทีมจะเจอกับสถานการณ์ย่ำแย่เรื่องผลการแข่งขัน
และก็มีข้อผิดพลาดอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นประตูที่เสียให้กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ในเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ แต่กระนั้น เดบิด เด เคอา ยังคงเป็นนักเตะที่เหมาะกับการทำหน้าที่เฝ้าเสาที่สุด ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นผู้จัดการทีม
ฟอร์มของ นายทวารชาวสแปนิช อาจจะมีออกทะเลไปบ้างโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นที่ผ่านมา จนทำให้โดน ดีน เฮนเดอร์สัน แย่งตำแหน่งมือ 1 ไป แต่สุดท้ายในฤดูกาลนี้ เด เคอา แสดงให้เห็นแล้วว่าเขายังคงเต็มไปด้วยคุณภาพชั้นยอด
และมีชอตซูเปอร์เซฟหลายคนที่ช่วยให้ “ผีแดง” ได้ผลงานการที่ที่เหมาะสม สำหรับตอนนี้ เด เคอา อายุเพียงแค่ 31 ปีเท่านั้นซึ่งถือว่าเป็นอายุที่กำลังใช้ได้สำหรับคนที่เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู นอกจากนี้เจ้าตัวยังอยู่เฝ้าเสาให้กับสโมสรมานาน 10 ปี
การเปลี่ยนแปลง และยังมีสัญญาจนถึงเดือนมิถุนายน 2023 ฉะนั้นด้วยศักยภาพและประสบการณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่ร็อดเจอร์ส ต้องการอย่างมาก กองหลัง “บีร็อด” เป็นกุนซือที่ไม่ยึดติดกับระบบการเล่นแบบใดแบบหนึ่งโดยเฉพาะ ผลบอล บ้านบอล
ได้มีการคิดแผนอนาคตเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะดึง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาทำแทน
การเปลี่ยนแปลง เขามักจะมีแท็กติกในการใช้ผู้เล่นเกมรับ 4 และ 5 คนในช่วงที่ เลสเตอร์ ในฤดูกาลนี้ ที่สำคัญเจ้าตัวมักจะปรับระบบการเล่นให้เหมาะสมในแต่ละเกม โดยจะทำการวิเคราะห์คู่แข่ง และผู้เล่นในทีมที่บาดเจ็บ เพื่อให้ทีมสามารถลงสนามด้วยระบบที่ดีที่สุด
จะว่าไปแล้ว โซลชาก็เคยพยายามทดลองใช้ระบบกองหลัง 5 ตัวในช่วงที่ผ่านมาซึ่งแน่นอนว่าแท็กติกนี้สามารถต่อยอดได้หาก ร็อดเจอร์สเข้ามาคุมทีมเพราะเจ้าตัวก็เคยใช้ระบบนี้กับ “จิ้งจอกสยาม” เช่นกัน ต้องแขวนสตั๊ด
สำหรับ “น้าลูกอม” ต้องยอมรับว่าเขาโดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการขาดระบบการเล่น และการวางแผนที่ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจาก ร็อดเจอร์สที่เน้นเรื่องวินัยในการเล่น แม้ว่าเขาจะชื่นชอบให้ทีมเล่นเกมบุก แต่ในขณะเดียวกันเกมรับก็ต้องแข็งแกร่งด้วย
แมนฯ ยูฯ ใช้เงินไปจำนวน 34 ล้านปอนด์ (ราว 1,496 ล้านบาท)ในการเซ็นสัญญากับ ราฟาแอล วาราน มาจาก เรอัล มาดริด ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่แน่นอนว่าทีมคงจะต้องมีการเสริมผู้เล่นเกมรับเพิ่มหาก “บีร็อด” เข้ามาคุมทัพ
โดยเฉพาะตำแหน่งแบ็กขวากซึ่งต้องสามารถขยับขึ้นไปเล่นวิงแบ็กขวาได้ แน่นอนว่านักเตะคนที่เหมาะสมและมีศักยภาพครบถ้วนแบบนั้นก็คือ คีแรน ทริปเปียร์ ฟูลแบ็กแอตเลติโก มาดริด ซึ่งตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูฯ ในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งซัมเมอร์ที่ผ่านมา
สำหรับคู่เซนเตอร์แบ็กยังคงเป็น วาราน กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ส่วน เอริก ไบยี่ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ คาดว่าคงจะได้ลงเล่นในบางเกม นอกจากนี้ยังเชื่อว่า ร็อดเจอร์สจะดึงตัว เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ดาวเตะวัย 20 ปีมาร่วมงานกับเขาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วย
ซึ่งหากเป็นจริงนี่จะเป็นการเสริมทัพที่สุดยอดมากๆ ของทีม กองกลาง ไม่มีอะไรต้องสงสัยเลยว่า ยูริ ตีเลอมันส์ คือสตาร์ประจำทัพ “เดอะ ฟ็อกซ์” และเป็นหนึ่งในลูกทีมของเขาที่สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมากมายมหาศาลหากได้มาเล่นให้กับแมนฯยูไนเต็ด
เฟร็ด กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำหน้าที่เป็นคู่หูแดนกลางซึ่งต้องบอกว่าน่าผิดหวังเหลือเกิน แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหาก แมนฯ ยูฯ คว้าตัว วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ เพราะศักยภาพในการครองบอล, การเชื่อมเกม คอยคุมจังหวะการเล่น และการผ่านบอลที่แม่นยำ จะยกระดับแผงมิดฟิลด์ของ “ผีแดง” มากยิ่งขึ้น
สำหรับในกรณีของ ปอล ป็อกบาที่จะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้ ก็ไม่น่าปัญหาเพราะทีมล็อกเป้า โอเรเลียง ชูอาเมนี่ มิดฟิลด์พรสวรรค์จากอาแอส โมนาโก มาเสริมทัพ ที่สำคัญนักเตะรายนี้เหมาะกับปรัญชาของร็อดเจอร์ส ซะด้วย
จะเห็นได้ว่าร็อดเจอร์ส มักใช้ เจมส์ แมดดิสัน ทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์คอยสร้างสรรค์เกม ซึ่งเขาเล่นอย่างมีระเบียบวินัยโดยเฉพาะการช่วยไล่กดดันคู่แข่งตลอดทั้งเกม ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะได้รับคำแนะนำแบบนี้เพื่อพัฒนาศักยภาพของเขาในอนาคต
แนวรุก บรรดสาวก “เร้ด อาร์มี่” รู้อยู่เต็มอกว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีขุมกำลังเกมรุกที่อันตรายสุดๆ และหากได้ร็อดเจอร์ส เข้ามาปลุกปั้นคงจะทำให้ แมนฯ ยูฯ กลายเป็นทีมที่มีเกมบุกที่สุดโหดเลยทีเดียว
สไตล์ของร็อดเจอร์ส ที่สร้างกับ เลสเตอร์ มีความโดดเด่นอย่างมากในการเล่นเกมรุกทางริมเส้น และการตัดบอลจากคู่แข่งพร้อมสวนกลับฉับพลัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นจุดด้อยของ แมนฯ ยูฯ ในยุคโซลชา โดยส่วนใหญ่แล้ว “ผีแดง” จะสร้างโอกาสจากความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นมากกว่า
ความสำเร็จของ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ภายใต้การทำงานร่วมกับร็อดเจอร์ส น่าจะเป็นขวัญกำลังใจอย่างดีสำหรับ เจดอน ซานโช่ ซึ่งสามารถกลับมาแจ้งเกิดใหม่ได้อีกครั้งในตำแหน่งปีกหลังจากที่ฟอร์มร่วงกราวรูดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูฯ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันความสามารถในการวิ่งหาพื้นที่ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด มีคุณสมบัติเหมือนกับ เจมี่ วาร์ดี้ ซึ่งนั่นจะช่วยให้เขาใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในการเจาะเกมรับของคู่แข่ง และสร้างสรรค์การทำประตูได้มากยิ่งขึ้น นอกนึกดูขุมกำลังเกมรุกของแมนฯ ยูฯ
การเปลี่ยนแปลง มีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แรชฟอร์ด, ซานโช่ , เมสัน กรีนวู้ด, เอดินสัน คาวานี่ และ เจสซี่ ลินการ์ด ซึ่งนั่นทำให้ร็อดเจอร์ส มีทางเลือกที่หลากหลายในการโจมตีคู่แข่ง ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องซื้อใครเพิ่มเลย https://www.fireantzhockey.com/