จุดโทษสองครั้ง เพียงแค่หกสัปดาห์ อียิปต์แพ้เซเนกัลในการยิงจุดโทษสองครั้ง และทั้งสองครั้งคือเกมแห่งชะตากรรม เป็นเกมแห่งความเป็นความตาย
จุดโทษสองครั้ง ที่ยิ่งเจ็บปวดไปกว่านั้น.. คือการแพ้เกมสำคัญที่สุด ด้วยการดวลจุดโทษ ตัดสินทั้งสองครั้ง เพียงแค่หกสัปดาห์ อียิปต์แพ้เซเนกัล ในการยิงจุดโทษสองครั้ง และทั้งสองครั้ง คือเกมแห่งชะตากรรม เป็นเกมแห่งความเป็นความตาย
ยิงจุดโทษตัดสิน แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ยิงจุดโทษตัดสินทีม ที่ได้ไปฟุตบอลโลก ยอมรับครับว่า รู้สึกเจ็บปวดแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แม้จะรู้ว่าเกมลูกหนัง มีเรื่องโหดร้ายอะไร แบบนี้รออยู่เสมอ ในเกมปกติผม ไม่ได้เชียร์ใครเป็นพิเศษ
ใครดีกว่าก็เข้ารอบไป แต่เมื่อเกมยืดเยื้อ มาถึงการดวลเป้า ผมเอาใจช่วยอียิปต์ ให้เป็นผู้ชนะ เหตุผล (สำหรับตัวผม) ก็คือ.. พวกเขาเพิ่งจะแพ้จุดโทษมาแล้ว ครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ ก่อนนี้เอง จะให้พวกเขาแพ้ แบบเดียวกันอีก
กับคู่ต่อสู้ทีม เดียวกันอีก ในเกมที่มีความหมายสูงสุด ระดับเดียวกันอีก.. มันเจ็บปวด และโหดร้ายเกินไป แล้วที่ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด แทนซาลาห์ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ในเกมแรกแม้กระทั่งเดินไป ยิงจุดโทษยัง ไม่มีโอกาสได้ทำ ด้วยถูกวางตัว เป็นคนยิงคนสุดท้าย
ส่วนเกมที่สองเปลี่ยนมา เป็นคนยิงเปิดหัว ก็ยังยิงพลาด แต่แน่นอนครับ ฟุตบอล.. ถ้าเราเห็นใจเขา เรายัดตั๋วบอลโลก ใส่มือเขาแล้ว ให้คนในประเทศ เรารอไปอีกสี่ปี เอาไหมล่ะ มันไม่มีทางเป็น ไปได้อยู่แล้ว ผมรู้ เรารู้ ทุกคนรู้
เพราะฉะนั้น แม้จะเอาใจช่วยอียิปต์ ในการดวลเป้า แต่ผมก็รู้อีกเช่นกันว่า ต้องปล่อยให้มันเป็นไป ถ้าอียิปต์แพ้ ก็คือพวกเขาจะเจ็บแสนสาหัส รวดร้าวเป็นเท่าทวี และต้องกัดฟันยอมรับ มันว่าทุกอย่างจบแล้ว ต้องรอไปอีกสี่ปี
จุดโทษสองครั้ง ผมเสียใจกับอียิปต์ แพ้แบบนี้สู้แพ้ในเกมไปเลย ทำใจง่ายกว่า เพราะนั่นคือแพ้จริงๆ การแพ้จุดโทษแม้สุดท้ายจะเป็นการบอกว่าเขานิ่งกว่าคุณอยู่ดีแต่ความรู้สึกมันก็ไม่ได้ต่างไปจากโยนเหรียญหัวก้อยนักหรอก https://www.dalintober.com/
ยอมรับครับว่ารู้สึกเจ็บปวดแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แม้จะรู้ว่าเกมลูกหนังมีเรื่องโหดร้ายอะไรแบบนี้รออยู่เสมอ
จุดโทษสองครั้ง กับอียิปต์ และเซเนกัล เหมือนคุณขึ้นชกกับคู่ต่อสู้มา 12 ยก คะแนนเสมอกัน ออกหมัดเท่ากัน หน้าตาบวมปูดพอๆ กัน เป็นการฟาดฟันที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดทั้ง 2 ไฟต์ ไม่ควรมีผู้แพ้เลย ความรู้สึกเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพียงแต่การตัดสินหาแชมป์ทวีป รู้สึกงุนงงกับแฮร์รี่
และการตัดสินชิงตั๋วไปฟุตบอลโลกมันไม่มีผู้แพ้ไม่ได้ มันจะต้องมีผู้ชนะเท่านั้นก็แค่นั้น แพ้ก็คือแพ้ เจ็บปวดก็ต้องยอมรับ ก้มหน้ารับความผิดหวังกันไป แต่มันก็จะเป็นเหมือนทุกๆ ครั้งในชีวิตเรานั่นแหละครับ แล้วเวลาก็จะเยียวยาแผลใจให้เอง
เหมือนที่ญี่ปุ่นเคยหัวใจสลายในฟุตบอลโลก 1994 รอบคัดเลือกที่โดฮา เหมือนที่แคเมอรูนเคยถูกกระทืบความหวังยับเยินในนาทีสุดท้ายของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2006 ที่ยาอุนเด้ เหมือนที่ บาเยิร์น มิวนิค เจ็บในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก 1999
เหมือนที่ เอซี มิลาน ปวดในนัดชิงเจ้ายุโรป 2005 มีหลายครั้งมากที่ฟุตบอลโหดร้ายอำมหิต.. แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่มันเป็นจุดจบของโลก ญี่ปุ่นไปฟุตบอลโลกทุกสมัยหลังจากนั้น แคเมอรูนไม่พลาดตั๋วรอบสุดท้ายอีกในฟุตบอลโลกสองครั้งต่อมา
และหนล่าสุดก็เพิ่งจะสร้างปาฏิหาริย์นาที 120+4 พลิกนรกเป็นสวรรค์ที่เมืองบลิด้า, แอลจีเรีย บาเยิร์น มิวนิคกลับมาเป็นแชมป์ยุโรปในอีกสองปีให้หลัง เอซี มิลานเองก็เช่นกันแถมยังล้างตาลิเวอร์พูลคู่ปรับเก่าได้สำเร็จ หรือจะเป็นเชลซีในปี 2008
กับการพังทลายสูญสิ้นที่มอสโก ความฝันของพวกเขาก็กลายเป็นจริงในที่สุดในอีกสี่ปีต่อมา ฟ้าหลังฝนรอทุกคนอยู่เสมอ เสียใจกับทุกทีมที่ตกรอบ ดีใจกับทุกทีมที่ได้ตั๋วฟุตบอลโลก เสียใจกับนักเตะแอลจีเรีย ดีใจกับนักเตะแคเมอรูน
เสียใจกับนักเตะอียิปต์ ดีใจกับนักเตะเซเนกัล แน่นอนครับ แฟนบอลแต่ละทีมก็จะมีนักเตะที่ติดตามให้กำลังใจของตัวเอง แฟนแมนฯ ซิตี้เสียใจกับ ริยาด มาห์เรซ แฟนแมนฯ ยูไนเต็ดดีใจกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และบรูโน่ แฟร์นันด์ส
แฟนอาร์เซน่อลดีใจกับ โธมัส ปาร์เตย์ แฟนบาเยิร์นดีใจกับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สำหรับเดอะค็อป.. นอกจากร่วมยินดีกับ ดีโอโก้ โชต้า และซาดิโอ มาเน่แล้ว พวกเขาย่อมไม่ลืมแบ่งปันความเจ็บปวดกับ โมฮาเหม็ดซาลาห์
แม้กระทั่งมาเน่เอง ก็คงจะอยากร่วมแบ่งมันกับเพื่อนร่วมทีมของเขาด้วย จุดโทษสองครั้ง เหมือนที่เคยร้องขอทีมไม่ให้จัดพิธียินดีให้ตอนที่ได้แชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ กับทีมชาติเราสู้เพื่อชาติ จำเป็นต้องเป็นคู่แข่งกัน ฟาดฟันกัน แต่เมื่อกลับมาสู่สโมสร
เราเป็นเพื่อนร่วมทีมกัน มีภารกิจนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน เดอะค็อปเองก็คงไม่ต่างกัน ความรู้สึกที่พวกเขามีต่อ ซาลาห์และ มาเน่นั้น ละเอียดอ่อน ยิ่งรัก.. ก็ยิ่งละเอียดอ่อน แล้วยิ่งกับเดิมพันครั้งใหญ่อย่างนี้ด้วยก็ยิ่งละเอียดอ่อนขึ้นไปอีก
จุดโทษสองครั้ง ไม่อยากให้ใครต้องเป็นฝ่ายแพ้เลย แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าสุดท้ายแล้วใครสมหวังใครผิดหวัง.. หากสำหรับผมแล้ว ซาลาห์กับมาเน่เป็นผู้ชนะด้วยกันทั้งคู่ ไม่มีใครแพ้เลยจริงๆ เพียงแต่คราวนี้ฟุตบอลเลือกเซเนกัลก็เท่านั้นเอง.. บ้านบอล