ผิวปากทีเดียว เปิดฉากหืดบี้สมาชิกใหม่ ลีดส์ สนุกสนานโคตรมัน
ผิวปากทีเดียว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดู 2020-21 นัดหมายเปิดฤดูกาล เป็นการเจอกันระหว่าง หงส์แดง ผู้ครอบครองแชมป์เมื่อซีซั่นก่อน รับการมาเยี่ยม สมาชิกใหม่ดีกรีแชมป์จากแชมเปี้ยนชิพ ที่คว้าตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นมาในรอบ 16 ปี
เกมนี้ ผิวปากทีเดียว เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันกลุ่มผ่านความฟิตลงเป็นตัวจริง ปั้นเกมร่วมกับ นาบี เกอิต้า และก็จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ส่วนแนวรุกสามประสานยังเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ โชว์ซูเปอร์เซฟ
ส่วนทางฝั่งของ มาร์เชโล่ บิเอลซ่า กุนซือวัยเก๋าของ “ยูงทอง” ใช้ขุมกำลังจากฤดูกาลก่อนเป็นหลักมี แคลวิน ฟิลลิปส์ คุมจังหวะร่วมกับ แจ็ค แฮร์ริสัน โดยเลือก แพทริก แบมฟอร์ด เป็นหน้าเป้าก่อน โรดริโก้ โมเรโน่ หัวหอกกลุ่มชาติประเทศสเปนที่ออกสตาร์ทเป็นสำรอง
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 4 ช่วงแรก หงส์แดง มาได้ลูกที่จุดโทษ ข้างหลัง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ยิงไปติดแขน โรบิน คอช เซ็นเตอร์แบ็กตัวใหม่ของ! “ยูงทอง” ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดลูกโทษทันที ก่อนที่จะ ซาลาห์ จะฆ่าจุดโทษเข้าไปอย่างสุดแรงเกิด ให้ “ลิเวอร์พูล” ขึ้นนำอย่างเร็ว 1-0
แต่ว่า ตอน 12 “แชมป์เก่า” มาเสียทีโดน ไล่ตีเสมอ 1-1 จนได้ จากความยอดเยี่ยมของ แคลวิน ฟิลลิปส์ ที่วางบอลยาวมาให้ แจ็ค แฮร์ริสัน เกี่ยวบอลหลบ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนตัดเข้ากึ่งกลางแล้วโยกหลบ โจ โกเมซ แล้วซัดด้วยขวาเสาแรกผ่านมือ อลีสซง เข้าไปอย่างเด็ดขาด
ตอน 16 สมาชิกของ คล็อปป์ พลาดได้ประตูลำดับที่สองอย่างโชคร้าย ข้างหลัง อิลลัน เมส์ลิเยร์ นายด่านลีดส์ออกมาสกัดบอลพลาดไปเข้าทาง มาเน่ ซัดกว่า 40 หลาเข้าไปแล้ว แต่ว่า ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เชิ้ตดำปฎิเสธไม่ให้ประตูเพราะว่าก่อนหน้านั้น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ล้ำหน้าไปก่อน
กระนั้น อีก 4 รอบถัดมา ทัพหงส์ มาแซงขึ้นนำ 2-1 ได้เสร็จ จากลูกคอนเนอร์ทางซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเตะมุมไปเสาแรกที่จุดนัดพบให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ วิ่งหนีตัวเกาะติดขึ้นกระแทกเต็มหัวไม่ถึง 6 หลา เข้าไปอย่างสวยงาม! เกมเปิดแลกเปลี่ยนกันสุดมันส์ ตอน 25 เจ้าบ้านเกือบจะได้ลุ้นเม็ดลำดับที่สาม ซาดิโอ มาเน่ ส่งบอลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาอัดด้วยขวาเกือบจะ 25 หลา บอลพุ่งแรงแม้กระนั้นไปตรงตัว อิลลัน เมส์ลิเยร์
น. 30 แนวรับของลิเวอร์พูลมาทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้างหลัง โจ โกเมซ เข้าพรวดพราดกึ่งกลางสนาม ก่อนโดน สจ๊วร์ต ดัลลัส วางบอลยาวมาหน้าประตู เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ พยายามจัดการบอลแต่ว่าไปโดน แพทริก แบมฟอร์ด ที่วิ่งมาตัดบอลได้ก่อนฉกเข้าไปซัดติดขา อลีสซง ก่อนกลิ้งเข้าประตูไป “ยูงทอง” ไล่ตีเสมอ 2-2
แต่ “แชมป์เก่า” มาแซงขึ้นนำ 3-2 อีกครั้ง
ในน.ที่ 33 ครั้งนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดฟรีคิกทางด้านซ้ายเข้ามาในกรอบ ปาสกาล สเตราค์ แนวรับยูงทองสกัดบอลไม่ดีไปเข้าทางปืนของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จับบอลด้วยขวาก่อนกระแทกด้วยซ้ายเต็มแรง จ่ายบอลทิ่มสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม เป็นประตูลำดับที่สองของดาวยิงกลุ่มชาติอียิปต์ในเกมนี้ มีลุ้นแฮตทริกโดยทันที ผิวปากทีเดียว
จบครึ่งแรก “แชมป์เก่า” หงส์แดง แซงขึ้นนำ 3-2 กลับมาบู๊กันต่อในช่วงหลัง แค่นาหน 49 เจ้าบ้านแทบได้เม็ดลำดับที่สี่ ข้างหลัง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หักบอลเข้ามากลางประตู บอลเลยทั้งยัง เกอิต้า รวมทั้งมาเน่ มาเข้าทาง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ปั่นด้วยขวาแต่ไปติดเซฟ อิลลัน เมส์ลิเยร์
นาที 58 “ลิเวอร์พูล” รอดการเสียประตูเฉียด ข้างหลัง โรบิน คอช วางบอลยาวให้ แจ็ค แฮร์ริสัน หลุดเข้าไปยกบอลข้ามหัว อลีสซง แม้ว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะพุ่งมาโขกบอลเข้าประตูตนเอง แต่ว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะที่ แฮร์ริสัน ล้ำหน้าไปก่อน ผลบอล
อีกนาทีต่อมา เจอร์เก้น คล็อปป์ แก้เกมหนแรกแปลงเอา ฟาบินโญ่ ลงไปเล่นแทน นาบี เกอิต้า กองทัพยูงทองของ บิเอลซ่า ไม่กลัวเปิดเกมรุกเข้าแลก! รวมทั้งตอน 66 มาไล่ตีเสมอลิเวอร์พูล 3-3 ได้เสร็จ จากความยอดเยี่ยมของ มาเตอุส คลิช ที่รับลูกจ่ายของ เอลแดร์ คอสต้า ก่อนที่จะแต่งบอลแล้ววอลเลย์ด้วยขวาผ่านมือ อลีสซง เข้าไปโดยเด็ดขาด
นาที 76 กลุ่มเยือนเกือบจะได้ลุ้นแซงนำเป็นหนแรก ข้างหลัง แคลวิน ฟิลลิปส์ ปั่นฟรีคิกนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปแบบได้เสียว แม้กระนั้นแล้ว นาที 87 “ยูงทอง” มาเสียท่าเสียจุดลูกโทษอีกทีหลัง โรดริโก้ โมเรโน่ ตัวสำรองไปทำฟาวล์ใส่ ฟาบินโญ่ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษในทันที ดูบอลสด
และก็เป็น ซาลาห์ คนเดิ่มที่สังหารเข้าไปไม่พลาด จำพวกนายด่านลีดส์พุ่งผิดทาง แล้วก็เป็นแฮตทริกของดาวเตะเลือดอียิปต์ในเกมนี้พา “หงส์แดง” แซงขึ้นนำ 4-3 ช่วงท้ายเกมไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม “แชมป์เก่า” หงส์แดง เฉือนคว้าชัยเหนือสมาชิกใหม่ แบบหืดจับ 4-3 ซิวสามแต้มเปิดฉากสนามได้เสร็จ