เลวานยิง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แงะฟอร์ดยอดเยี่ยมข้างหลังยิงสอง-จ่ายสอง
เลวานยิง พา “เสือใต้” ไล่กระหน่ำเชลซี 4-1 สกอร์รวมสองนัดหมายผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 กลุ่มท้ายที่สุด ด้วยประตูรวม 7-1 โดยจะเข้าไปพบกับ บาร์เซโลน่า ในวันที่ 14 เดือนสิงหาคมนี้ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 กลุ่ม
ในที่สุด นัดหมายสอง เมื่อคืนนี้วันเสาร์ที่ 8 เดือนสิงหาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา สนาม อัลลิอันซ์ อารีน่า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด นัดหมายสอง บาเยิร์น มิวนิค กลับมาเล่นในบ้านรับการมาเยี่ยมของเชลซี ผลบอล
โดยเกมแรกเสือใต้โชว์ฟอร์มดุบุกไปกระหน่ำ “สิงห์บลูส์” 3-0 ทำให้ได้โอกาสสูงที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค พาเสือใต้ไม่มีพ่ายแพ้ตั้งแต่ขึ้นปี 2020 แมตช์ทางการปัจจุบันเป็น ไล่บดเอาชนะ
เลเวอร์คูสังเวย 4-2 ครองแชมป์เดเอฟเบ โพติดอยู่ล เมื่อต้นเดือนก.ค.ก่อนหน้านี้ เกมนี้ไม่มีอุปสรรคต่อการจัดกองทัพจัดชุดใหญ่ส่ง แซร์จ ที่นาร์บี้, โธมัส มุลเลอร์ และก็อิวาน เปริสิช ส่งเสริม โรเบิร์ตเลวานดอฟสกี้ ยืนเป็น
แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ของเชลซี แพ้เกมแรกมากินขาดทำให้ช่องทางเข้ารอบยากเหลือเกิน
ภาวะกลุ่มก็ไม่ดีเยอะแค่ไหน ฟอร์มปัจจุบันปราชัย อาร์เซน่อล 1-2 ในนัดหมายชิงฯเอฟเอ คัพ เมื่อต้นเดือนก่อนหน้านี้ แถมจำต้องมาปวดศรีษะกับลักษณะการเจ็บของผู้เล่นอีก โดยสามแนวรุกวันนี้จัด เมสัน เมาน์ท, แทมมี่ อบราฮัม
รวมทั้ง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ออกตัวมาได้เพียงแค่ 8 นาทีโรเบิร์ตเลวานดอฟสกี้ หลุดเข้าไปสัมผัสบอลหลบ วิลลี่ กาบาเยโร่ ได้แล้ว หากแม้ผู้ตัดสินจะเป่าเป็นล้ำหน้าไปก่อน แม้กระนั้นภายหลังจากเช็กจาก VAR แล้วไม่เป็น ดูบอลสด
ลูกล้ำหน้า ทำให้กลับคำพูดวินิจฉัยชี้เป็นจุดลูกโทษให้เสือใต้พร้อมแจกใบเหลืองให้ กาบาเยโร่ ก่อนที่จะ โรเบิร์ตเลวานดอฟสกี้ จะซัดเข้าไปไม่พลาดให้ บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำอย่างเร็ว 1-0 รวมทั้งเป็นประตูที่ 12 นำดาวซัลโวยูฟ่า
แชมเปี้ยนส์ ลีก สกอร์รวมนำ เชลซีกินขาด 4-0 นาที18เสือใต้ได้ลุ้นอีกครั้งนี้ แซร์จ ท้องนาร์บี้ ครอสมาให้เลวานดอฟสกี้ ดีดเร็วด้วยขวาบอลพุ่งถากเสาไกลออกไปอย่างโชคร้าย กระนั้นนาที 24 สิงห์บลูส์ มาเล่นกันพลาด
ข้างหลัง มาเตโอ วัววาสิช ทำทิ่มอลกลางสนาม ก่อนบอลมาถึงเลวานดอฟสกี้ ดึงจังหวะแล้วไหลนุ่มๆให้ อิวาน เปริสิช แปด้วยขวาเสาแรกผ่านมือ วิลลี่ กาบาเยโร่ เข้าไป ให้เสือใต้นำห่าง 2-0 นาที28 เชลซีมาชวดประตู
ตีไข่แตกอย่างโชคร้ายข้างหลัง แทมมี่ อบราฮัม ส่งบอลแม้กระทั่ง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ปั่นบอลอย่างสุดงามแทรกเสาเข้าไปแล้ว แม้กระนั้น VAR การันตีไม่ให้ประตูเพราะเหตุว่า แทมมี่ กลับมาจากตำแหน่งล้ำหน้า ด้านหลัง ยูเวนตุส
ครึ่งแรกนาที 44 เชลซีมาพังทลายประตูตีไข่แตกเสร็จ ข้างหลัง เอเมอร์สัน ครอสบอลเข้ามาในกรอบ 6 หลา มานูเอล นอยเอ้อร์ ออกมาตะปบบอลแม้กระนั้นพลาดทำหลุดมือไปเข้าทาง แทมมี่ อบราฮัม ที่ยืนเตียนๆตามซ้ำ
ด้วยขวาเข้าไปให้เชลซี ไล่มาเป็น 1-2 จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำเชลซี 2-1 สกอร์รวมสองนัดหมาย “เสือใต้” นำห่าง 5-1 กลับมาเล่นต่อในช่วงหลังนาที 49 เอเมอร์สัน ส่งบอลขึ้นหน้าให้ เมสัน เมาน์ท ลากขึ้น
ด้านซ้ายเข้าไปในกรอบก่อนที่จะกดด้วยซ้ายมุมแคบไปเข้ามือ มานูเอล นอยเอ้อร์ นาที 63 เจ้าของบ้านเปลี่ยนแปลงสองคนรวดส่ง นิคลาส ซือเล่ ลงไปเล่นแทน เยโรม บัวเต็ง ที่มีความรู้สึกเจ็บ รวมทั้งส่ง ฟิลิปกระเป๋า
คูว่ากล่าวนโญ่ ลงไปเล่นแทน อิวาน เปริสิช อีก 4 นาทีถัดมา บาเยิร์น แทบได้เม็ดลำดับที่สามข้างหลัง โยชัว คิมไม่ช เปิดเตะมุมมาให้ ว่ากล่าวอาโก้ อัลกันตาร่า กระแทกบอลโดนสกัดมาเข้าทาง ดาวิด อลาบา อัดด้วยขวา
แถวสองเข้าไปแต่ว่าบอลพุ่งไปเข้ามือ กาบาเยโร่ นาที 76 “เสือใต้” มาได้ประตูลำดับที่สามนำห่าง 3-1 บอลออกซ้ายไปให้ เลวานดอฟสกี้ ก่อนที่จะหัวหอกชาวประเทศโปแลนด์จะเปิดมากมายลางประตูให้ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ เลวานยิง
ผู้เล่นสำรองที่พึ่งจะลงมากระโจนแปด้วยขวาย้ำๆเข้าไปให้เจ้าของบ้านสกอร์รวมนำ สิงห์บลูส์ 6-1 มันยังไม่ใช่แค่นี้ นาที 84 มาได้ประตูลำดับที่สี่นำลิ่ว 4-1 ครั้งนี้ อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า ครอสจาดทางด้านขวามาให้ โรเบิร์ต
เลวานดอฟสกี้ กระแทกเข้าไปเป็นประตูลำดับที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ แล้วก็ประตูที่ 13 นำดาวซัลโวรายการนี้ จบการแข่งขันชิงชัย บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 4-1 รวมผลสองนัดหมาย “เสือใต้” เอาชนะกินขาด 7-1 ผ่านเข้าไป
เล่นในรอบ 8 กลุ่มในที่สุดที่ประเทศโปรตุเกสที่จะจัดแบบ “ไม่นิทัวร์ทุ่งนาเมนท์” โดยจะเจอกับ บาร์เซโลน่า ในวันศุกร์ที่ 14 เดือนสิงหาคมนี้ บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – โยชัว คิมมิช (อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า น.71),
เยโรม บัวเต็ง (นิคลาส ซือเล่ น.63), ดาวิด อบาลา, อัลฟงโซ่ เดวิส – ติอาโก้ อัลกันตาร่า (โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ น.70), เลออน โกเร็ทซ์ก้า – แซร์จ นาร์บี้ (ฆาบี มาร์ติเนซ น.81), โธมัส มุลเลอร์, อิวาน เปริซิช (ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.64)
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เชลซี (4-3-3) : วิลลี่ กาบาเยโร่ – รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, คูร์ท ซูม่า, เอเมอร์สัน พัลไมรี่ – มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, รอสส์ บาร์คลี่ย์ – เมสัน เมาน์ท, แทมมี่ อบราฮัม (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.81), คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย คูเน็ย์ต ชาคีร์ (ประเทศตุรกี)