ตอนผลตรวจรอบ ผลตรวจรอบปัจจุบันในอังกฤษนั้น โมฮาเหม็ด ปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19
ตอนผลตรวจรอบ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ หงส์แดง สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่แวดวง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เผยออกมาว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนเก่งของกลุ่ม มิได้ติดโรคไวรัสโควิด-19 อีกต่อไปแล้ว หลังนักเตะ
ตอนผลตรวจรอบ เมื่อวันศุก ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ซาลาห์ กลายเป็นข่าวสารดัง จากการที่ถูกตรวจเจอว่าติดโรคไวรัสร้าย ระหว่างไปรับใช้กลุ่มชาติอียิปต์ และก็เมื่อไม่กี่วันก่อน พอเพียงเขาเข้ารับการตรวจอีกที มันก็พบว่าเขายังส่งผลตรวจ เป็นบวกอยู่ ซึ่งศัพท์ทางการแพทย์นั้น ผลตรวจเป็นบวก หมายถึงการได้รับเชื้อ โดยเรื่องดังที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ช่วงแรก เขาจำเป็นต้องอดช่วยกลุ่ม
จวบจนกระทั่ง จะถึงเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เพราะตามกฎของ พรีเมียร์ลีก แล้วนั้น ตอนผลตรวจรอบ นักเตะคนใดก็ตามที่ถูกตรวจเจอว่าติดโรคก็จะต้องพัก 10 วัน จนกว่าจะกลับมาฝึกซ้อม หรือลงเล่นได้ โดยจะนับจากวันที่ถูกตรวจเจอว่าติดเชื้อครั้งปัจจุบัน
แม้กระนั้น ไม่นานมานี้ ซาลาห์ แล้วก็ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมชาติจาก อาร์เซน่อล ที่ติดเชื้อร้ายเช่นกันนั้น ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมาที่ประเทศอังกฤษก่อน ซึ่งเมื่อถึงท่าอากาศยาน ในกรุงลอนดอนพวกเขาก็รับการตรวจตามมาตรการของอังกฤษในทันที
และก็ปัจจุบันผลตรวจของ ซาลาห์ ก็บอกว่าเขาปลอดเชื้อร้าย อยู่ภายในร่างกายแล้ว นั่นหมายความว่าผลตรวจรอบ 2 ก่อนหน้าที่ผ่านมาอาจจะเกิดความบกพร่อง นำมาซึ่งการทำให้ ซาลาห์ สามารถลงฝึกซ้อมได้ตั้งแต่วันจันทร์เลย เพราะเหตุว่าจัดว่าครบ 10 วันจากการที่เขาถูกตรวจเจอว่าติดโรคแล้ว
คล็อปป์ เปิดเผยภายหลังนำกลุ่มเปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ เลสเตอร์ สิตี้ 3-0 ในเกมลีก ตอนผลตรวจรอบ “นั่นเป็นสิ่งที่ผมได้ยินมา ผมได้ยินมาว่าวันนี้ ผลตรวจของเขามันเป็นลบ ผมมีความคิดว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปเขาจะไม่มีปัญหาอะไรที่อยู่ในการตรวจทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง วันพรุ่งพวกเราจะกระทำตรวจกับ ยูฟ่า
สำหรับในการทำตามกฎของ แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วก็ผมค่อนข้างจะแน่ใจว่าเขาจะเข้าร่วมการตรวจด้วย วันพรุ่งเขาสามารถฝึกร่วมกับพวกเราได้ มันอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการตรวจของ พรีเมียร์ลีก ในวันมะรืนนี้ไหมน่ะหรอ ? ก็มีนะ ในอีก 2 วันถัดจากนี้มันจะมีการตรวจอีก 2 ครั้ง โดยเหตุนี้เขาก็จะรับการตรวจด้วย” หากไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นแล้วนั้น ซาลาห์ ก็อาจจะสามารถกลับมาลงเล่นได้ตั้งแต่เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ อตาลันต้า
อดีตกาลแบ็กซ้ายคนเก่ง ชี้ หง ชุดตอนนี้ยังไม่ใช่หนึ่งในกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ปาทริซ เอวร่า อดีตกาลยอดตัวบุกปีกซ้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สมาคมดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พูดว่า ลิเวอร์พูล ชุดปัจุบัน ยังไม่เข้าขั้นเป็นเลิศในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแวดวงบอลอังกฤษอะไร ผลบอล
“ลิเวอร์พูล” ภายใต้การทำกลุ่มของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังอยู่ในตอนขาขึ้นโดยตลอด โดยพวกเขาได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดู 2018-19 ต่อด้วยการได้แชมป์ลีกเมื่อซีซั่นก่อน ในช่วงเวลาที่ฤดูนี้ก็ยังมองมีโอกาสดีที่จะป้องกันแชมป์เอาไว้ได้
โดยล่าสุดก็เพิ่งจะเปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ เลสเตอร์ สิตี้ 3-0 กระทั่งทำให้มี 20 คะแนน เท่ากับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เป็นจ่าฝูงด้วย เพียง ลิเวอร์พูล ด้อยกว่าเรื่องผลต่างประตูได้-เสียแค่นั้น ดังนี้ ชัยเหนือ เลสเตอร์ ยังเป็นเหตุให้ หงส์แดง ชุดนี้ ทำลายสถิติของสมาคมในด้านการไม่แพ้คนไหนคาบ้านติดต่อกันช้านานที่สุดในเกมลีกเช่นเดียวกัน
ภายหลังจากเดี๋ยวนี้พวกเขาไม่แพ้ผู้ใดกันคา แอนฟิลด์ มาแล้วถึง 64 เกมต่อเนื่องกัน โดยสถิติดังกล่าวยืนยาวมานาน 40 ปีอย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งมันก็ทำให้มีการชื่นชมเยอะขึ้นว่า หงส์แดง ชุดนี้เป็นชุดที่ดีที่สุดของชมรม รวมทั้งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ของแวดวงบอลเมืองผู้ดีด้วย ดูบอลสด
เอวร่า กล่าวขณะที่ทำหน้าที่กูรูของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นหนึ่งของเมืองผู้ดีว่า “พวกเราต้องใจเย็นกันหน่อยนะ มันเพิ่งจะผ่านมาเพียงแค่ 9 นัดเพียงแค่นั้น ผมจะพูดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ก็เมื่อพวกเขาได้แชมป์ลีก 3 ฤดูติดต่อกัน หากฤดูกาลนี้พวกเขามิได้แชมป์ลีกแล้วล่ะก็ ผมก็จะไม่เรียกพวกเขาว่ากลุ่มที่น่าแปลกหรอก
สิ่งที่จำเป็นเป็นเรื่องความคงเส้นคงวา พวกเขาต้องได้แชมป์ในทุกๆฤดู พวกเขาจะต้องทำอย่างงั้นให้ได้เสียก่อนพวกเราถึงจะยอมเรียกพวกเขาว่าเป็น หงส์แดง ที่ยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านี้มีหลายทีมที่ทำอย่างงั้นได้ไปแล้ว ผมจะยอมเรียกพวกเขาว่าเป็น ลิเวอร์พูล ที่เก่งที่สุดก็เมื่อพวกเขาได้แชมป์ลีก 3 ยุคติดเท่านั้น”
ดังนี้ เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก อดีตยอดปีกของ อาร์เซน่อล ซึ่งดำเนินงานเป็นกูรูให้ สกายสปอร์ตส์ เช่นเดียวกันนั้น ก็กล่าวว่าตนเห็นด้วยกับคำกล่าวของ เอวร่า “พวกเขาเป็นสโมสรที่สุดยอด แต่ผมมีความคิดว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่แม้จะพูดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่ดีที่สุดถ้าเกิดเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่นๆในประวัติศาสตร์ ผมเห็นด้วยกับ ขว้างทริซ”
