มาย้อนอดีต แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เปิดหัวในชปล.

มาย้อนอดีต

มาย้อนอดีต นับเป็นผลการแข่งขันชิงชัยที่พลิกล็อกอย่างยิ่งกับการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งอุดมไปด้วยนักฟุตบอลชั้นเลิศ

มาย้อนอดีต นับเป็นผลการแข่งขันชิงชัยที่พลิกล็อกอย่างยิ่งกับการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งอุดมไปด้วยนักฟุตบอลชั้นเลิศ แถมยังนำกองทัพโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะต้องหัวคะมำตั้งแต่การลงเล่น ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกของฤดูกาลนี้

จากการที่พวกเขาออกไปแพ้ ยัง บอยส์ ทีมของลีกสวิตเซอร์แลนด์ 1-2 สำหรับในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ เมื่อวันอังคารที่ 14 กันยายน ก่อนหน้าที่ผ่านมา แน่นอนว่ามันยังเป็นเพียงแต่การลงเล่นครั้งแรก

กระทั่งทำให้จัดว่าเร็วเกินความจำเป็นที่จะกล่าวได้ว่าในที่สุดแล้วทางของปีศาจแดง มาย้อนอดีต กับการเล่นถ้วย “บิ๊กเอียร์” ในฤดูกาลนี้จะคืออะไร แม้กระนั้นอีกแง่หนึ่งมันก็สามารถกล่าวได้ว่าการออกสตาร์ตที่ทรามนั้น

จะมีผลกับการเล่นในอีก 5 เกมที่เหลืออย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยเหตุว่าแมนฯยูไนเต็ด อาจไม่สามารถพลาดได้อีกแล้ว จะว่าไปแล้วแท้จริงนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แมนฯยูไนเต็ด แพ้ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม

นับจากที่มันมีการแปลงจากชื่อ ยูโรเปี้ยน คัพ มาเป็นชื่อแชมเปี้ยนส์ลีก เช่นเดียวกัน ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 1996-97 ในช่วงเวลานั้น แมนฯยูไนเต็ดภายใต้แนวทางการทำทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พึ่งจะซิวแชมป์ลีกในฤดูกาล 1995-96 มาครอบครองได้

ภายหลังที่เมื่อ 1 ฤดูกาลก่อนหน้านั้นพวกเขาเสียแชมป์ให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และก็ในตอนซัมเมอร์ของปี 1996 แมนฯยูไนเต็ดก็ได้นักฟุตบอลอย่าง รอนนี่ ยอห์นเซ่น, คาเรล โพบอร์สกี้, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา รวมทั้ง ยอร์ดี้ ครัฟฟ์ มาร่วมทัพอีก

มาย้อนอดีต เมื่อนับรวมกับขุมกำลังที่มีอยู่แล้วอย่าง เอริก คันโตน่า, ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, เดนิส เออร์วิน, ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์ ฯลฯ แล้วนั้น ทำให้ตอนนั้น แมนฯยูไนเต็ดเป็นชุดที่ดูดีพอตัว

มาย้อนอดีต ซึ่งในการเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนั้นพวกเขาก็ถูกจับไปอยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ ยูเวนตุส, เฟเนร์บาห์เช่ และ ราปิด เวียนนา ผลบอล บ้านบอล

มาย้อนอดีต

นำกองทัพโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะต้องหัวคะมำตั้งแต่การลงเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกของฤดูกาลนี้

มาย้อนอดีต นัดแรกในถ้วยยุโรปของขุนพล แมนฯยูไนเต็ดคือการไปเยือน สตาดิโอ เดลเล่ อัลปิ ของ ยูเวนตุส แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับบ้านแบบมือเปล่าหลังจากที่แพ้ “เบียงโคเนรี่” 0-1 โดยประตูชัยของเจ้าถิ่นในเกมนั้น ปืนยังไม่หนำใจ

มาจากผลงานของ อเล็น บ็อคซิช หัวหอกชาวโครเอเชีย ซึ่งเกมนั้น แมนฯยูไนเต็ดจัดชุดที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ลงเล่นด้วย เพราะใน 11 ตัวจริงมีทั้ง คันโตน่า, ชไมเคิ่ล, เบ็คแฮม, เออร์วิน, กิ๊กส์, เนวิลล์ ลงช่วยทีม

แต่สุดท้ายก็ไม่อาจต้านทานความยอดเยี่ยมของ ยูเวนตุส ได้ หลังจากปราชัยตั้งแต่นัดแรก แมนฯยูไนเต็ดก็ยังแพ้ในรอบแบ่งกลุ่มอีก 2 หนด้วยกัน นั่นคือการแพ้ เฟเนร์บาห์เช่ กับภาค 2 ที่เจอ ยูเวนตุส โดยสกอร์ออกมาที่ 0-1 ทั้ง 2 เกม

แถมยังเตะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทั้ง 2 นัดด้วย เดชะบุญที่สุดท้ายทีมของ เฟอร์กูสัน ยังผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้จากการชนะ ราปิด เวียนนา 2-0 ในนัดสุดท้าย จนทำให้เป็นรองแชมป์ของกลุ่ม

ท้ายที่สุดแล้วฤดูกาลนั้น แมนฯยูไนเต็ดก็ไปถึงรอบรองชนะเลิศ มาย้อนอดีต เพราะในรอบ 8 ทีมสุดท้ายพวกเขาผ่าน เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-0 แต่ในรอบตัดเชือกไปแพ้ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสกอร์ 0-1 ทั้งเหย้าและเยือน

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แมนฯยูไนเต็ดก็ไม่แพ้ใครในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มในศึก แชมเปี้ยนส์ลีกอีกเลย (นับเฉพาะรอบแบ่งกลุ่ม รอบแรก) จนกระทั่งมาถึงฤดูกาล 2015-16 ที่พวกเขาถูกจับไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, เฟาเอฟแอล โวล์ฟส์บวร์ก และ ซีเอสเคเอ มอสโก

ตอนนั้นแมนฯยูไนเต็ด อยู่ในมือของ หลุยส์ ฟาน กัล และพวกเขาก็เพิ่งได้สิทธิ์กลับมาเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากที่ตอนซีซั่น 2014-15 ไม่ได้เล่นเกมถ้วยยุโรปเลย โดยที่ตอนนั้น ปีศาจแดงได้นักเตะอย่าง เมมฟิส เดอปาย,

มัตเตโอ ดาร์เมียน, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน, เซร์คิโอ โรเมโร่ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มาเสริมทัพ ส่วนนักเตะชุดเดิมที่เด่นๆ ก็มีอย่าง เวย์น รูนี่ย์, ดาบิด เด เคอา และ ไมเคิ่ล คาร์ริค

แน่นอน หากเทียบชื่อชั้นของทีมนั้นการผ่านรอบแบ่งกลุ่มไม่น่าจะเป็นงานยากของ ฟาน กัล เลย แต่กลับกลายเป็นว่าทีมของเขาพลาดท่าตั้งแต่นัดแรกด้วยการออกไปแพ้ พีเอสวี 1-2 โดยวันนั้นแมนฯยูไนเต็ด

นำก่อนจาก เมมฟิส เดอปาย ในนาทีที่ 41 ก่อนที่ พีเอสวี จะได้ประตูจาก เอ็คตอร์ โมเรโน่ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก และ ลูเซียโนาร์ นาร์ซิงห์ ในนาทีที่ 57 การออกสตาร์ตที่ย่ำแย่ในวันนั้นส่งผลร้ายกับแมนฯยูไนเต็ด ในท้ายที่สุด

เพราะกลายเป็นว่าพวกเขาได้เพียงอันดับ 3 ของกลุ่ม ด้วยผลงาน 8 คะแนนจากการลงเล่น 6 นัด ส่งผลให้ทีมของ ฟาน กัล ต้องตกรอบจากแชมเปี้ยนส์ลีก และหล่นไปเล่นใน ยูฟ่า ยูโรปาลีก แทน ซ้ำร้ายพอต้องไปเล่นในรายการนั้น

พวกเขาก็ไปตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยฝีมือของ ลิเวอร์พูล คู่ปรับตัวฉกาจอีก ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วที่จะให้คำตอบได้ว่า โซลชา ผู้ที่นำแมนฯยูไนเต็ด แพ้ตั้งแต่นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มใน แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่ 3 นั้น

มาย้อนอดีต จะพาทีมปิดฉากรอบนี้ได้เหมือนกับยุคของ เฟอร์กูสัน หรือ ฟาน กัล กันแน่ https://www.fireantzhockey.com/

ทุบสถิติแล้ว Previous post ทุบสถิติแล้ว เซ่นเจ็บเอลเลียต-ซาลาห์ทุบสถิติ ลิเวอร์พูลบุกอัดลีดส์10คน แต้มทาบผู้นำฝูงแมนยู
มาร์ติเนซโคตรแสบ Next post มาร์ติเนซโคตรแสบ ท้าทายโรนัลโด้ก่อนบรูโน่พลาด แถมมีเต้นเย้ย