เกมสุดดราม่า ได้จุดโทษในช่วงทด ก่อนที่จะสังหารเข้าไปเป็นประตูชัยให้ทีมเอาชนะ
เกมสุดดราม่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จัดทัพใหญ่ล่าสามแต้มแรกของฤดู โดยปรับสามตำแหน่งจากชุดแพ้ พาเลซ ครั้งแรก เริ่มจาก อารอน วาน-บิสซาก้า แทน ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ เล่นแบ็กขวา, เนมานย่า มาติช แทน สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กึ่งกลาง รวมทั้ง เมสัน กรีนวู้ด ลุยแนวรุกแทน แดน เจมส์
เกมสุดดราม่า ฟาก นกนางนวล ปรับตำแหน่งเดียวจากชุดไล่อัด นิวคาสเซิ่ล 3-0 โดย อีฟส์ บิสซูม่า ติดโทษแบนทำให้ อดัม ลัลลาน่า ได้ลงโชว์ฝีเท้า และหวังหลอนปีศาจแดงอีกที หลังเคยตะบันให้ หงส์แดง เมื่อฤดูที่แล้ว
เกมที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เริ่มขึ้นโดยทั้งคู่กลุ่ม ประเดิมฝ่าใส่กันทันที น.9 แฟนเจ้าบ้านเฉียดได้เฮเมื่อ ทรอสซาร์ จับบอลแล้วสับไกจากหน้ากรอบจุดโทษทางซ้ายลูกลอยไปชนเสาอย่างจัง ในช่วงเวลาที่ ดาบิด เด เคอา บินไม่ถึงไปแล้ว
ต่อมา 15 โอกาสเป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ กรีนวู้ด อาศัยความผิดพลาดของนักฟุตบอลเจ้าของบ้าน ฉกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนที่จะตัดสินใจซัดด้วยซ้ายผ่านหน้าปากประตูไป เกิดความวุ่นวาย
เกมแลกกันสนุก จังหวะต่อมา ทรอสซาร์ หวิดพังตาข่ายให้ ได้จากจังหวะวางเท้ากระหน่ำเรียดเน้นๆแต่ว่าลูกพุ่งถากเสาไปหวุดหวิด ทำเอา เด เคอา จะต้องโวยวายแหลกสหายๆเลยทีเดียว ต่อมา น.30 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูอีกแล้วเมื่อ อดัม เว็บสเตอร์ ได้โหม่งย้อยๆไปชนคาน
หลังจากนั้น 32 ปีศาจแดง ต่อบอลกันได้สวย ก่อนจบที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลจากทางด้านซ้ายให้ กรีนวู้ด ใส่ขึ้นมายิงตุงตาข่าย แต่จำเป็นต้องเฮเก้อ เพราะไลน์แมนยกธงว่า แรชฟอร์ด ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
กระทั่ง นาที 38 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไปทำฟาวล์ใส่ ทาริค แลมพ์ตีย์ ล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดลูกโทษโดยทันที ก่อนจะเป็น นีล โมเปย์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ ขึ้นนำก่อน 1-0
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น 43 “ปีศาจแดง” ตามตีเสมอทันควัน 1-1 จากจังหวะที่ เนมานย่า มาติช ได้บอลถึงสุดเส้นหลังแล้วหักกลับเข้าในให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แต่ ลูอิส ดังค์ พยายามสกัดบอลแม้กระนั้นแปลงทางเข้าประตูตนเองไป ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ช่วงหลังเล่นมาได้เพียง 2 ช่วง ปอล ป็อกบา ไปชน คอเนอร์ คอนนอลลี่ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดลูกโทษ แต่มาย้อนดูวีเออาร์กลับคำวินิจฉัยเนื่องจากเห็นว่า คอนนอลลี่ พุ่งล้มลงไปเอง
แล้ว นาที 52 แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเฮเก้ออีกทีจากจังหวะที่ เมสัน กรีนวู้ด หลุดมาทางซ้ายแล้วจ่ายยัดเข้าในให้ มาคัส แรชฟอร์ด ซัดจ่อๆส่งบอลตุงตาข่าย แต่ว่าผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แสดงให้เห็นว่าแนวรุกกลุ่มชาติอังกฤษอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างโชคร้าย ผลบอล
แม้กระนั้น 55 “ปีศาจแดง” ได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ มาคัส แรชฟอร์ด ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลบ เบน ไวท์ จนเสียหลัก ก่อนที่จะได้ซัดเตียนๆด้วยซ้ายบอลไปแฉลบแนวรับ เข้าประตูไป ทั้งคู่กลุ่มแลกหมัดใส่กันบันเทิงใจ 60 ไบรท์ตัน ชวดได้ประตูตามตีเสมอเมื่อ สตอรี่ มาร์ช หลุดมาทั่งฝ้ายซ้ายโล่งๆบรรจงซัดจ่อๆบอลพุ่งไปชนเสาไกลอย่างน่าเสียดาย
76 ทีม “นกนางนวล” ชวดตีเสมออีกครั้ง เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดมาทางฝั่งซ้ายแล้วกดเต็มข้อบอลไปชนคานลั่น แม้กระนั้นช่วงทดเจ็บนาที 90+5 ทำช็อกได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ สตอรี่ มาร์ช ได้ยืนโขกโล่งที่เสาไกลส่งบอลตุงตาข่าย
เกมสุดดราม่า ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ช่วงทดเจ็บ 90+10 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โหม่งไปโดนมือของ นีล โมเปย์ ในจุดโทษ ผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาไปแล้ว แต่ไปเช็กวีเออาร์ ก่อนจะย้อนกลับมาให้เป็นจุดลูกโทษแล้วเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอีกที 3-2
ตอนที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ไบรท์ตัน 3-2 ประเดิมชัยเกมแรก ขยับขึ้นมารั้งที่ 13 ของตาราง ส่วน ไบรท์ตัน ตกมารั้งที่ 10 ดูบอลสด
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ไบร์ทตัน (3-4-3) : แม็ทธิว ไรอัน – เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์ – ทาริค แลมพ์ตีย์, อดัม ลัลลาน่า, สตีเว่น อัลซาเต้, สตอรี่ มาร์ช – เลอันโดร ทรอสซาร์, คอเนอร์ คอนนอลลี่, นีล โมเปย์
แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – ปอล ป็อกบา, เนมานย่า มาติช – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
