ในช่วงตอนนี้ เป็นปีที่ประสบพบเจอปัญหาจำนวนมาก แม้ว่าจะใช้เงินเสริมกองทัพ

ในช่วงตอนนี้

ในช่วงตอนนี้ มีหลายหน้าแข้งที่ไม่สามารถที่จะแจ้งกำเนิดได้

ในช่วงตอนนี้ กระนั้นดีแล้วภายหลัง เชลซี มีการเปลี่ยนในตำแหน่งกุนซือขึ้นอีกที ภายหลังสั่งเด้ง แลมพาร์ด พ้นตำแหน่ง ซึ่งหากว่าไม่มีอะไรผิดพลาด สมัยก่อนที่ปรึกษา ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะได้รับการแต่งเข้ามา เป็นนายใหญ่คนใหม่ ที่ถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เร็วนี้ๆ

แน่นอนว่าการเปลี่ยนในตำแหน่งกุนซือ นั้นแผนการเล่น ในช่วงตอนนี้ และการจัดตัวผู้เล่นจะมีการเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย และนี่คือ 5 นักเตะที่มีโอกาสกลับมาเฉิดฉายภายใต้การคุมทีม แปลงเป็นอีกราย

  • คริสเตียน พูลิซิช

ย้อนไปในฤดูกาลที่แล้วปีกกลุ่มชาติสหรัฐฯทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมข้างหลังพึ่งจะย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นปีแรก โดยการทำได้ 11 ประตูกับ 10 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 34 เกมรวมทุกรายการ ซึ่งเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว แม้กระนั้นฤดูนี้ตัวรุกวัย 22 ปี จะต้องประสบปัญหาการบาดเจ็บก่อกวน และก็เมื่อกลับมาลงสนามโดยตลอดเขาก็ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้

โดยเพิ่งจะทำเป็นเพียงแค่ 2 ประตูจากการลงเล่น 17 เกมรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้เพียงแค่นั้น แต่ว่าแม้กระนั้นการมาของ ทูเคิ่ล ที่มีคู่มือการใช้งาน พูลิสิช หลังเคยร่วมงานกันยุคอยู่ในถ้ำเสือเหลืองมาแล้ว ทำให้กุนซือชาวเยอรมันบางทีอาจดึงฟอร์มเก่งของนักฟุตบอลกลับมาได้อีกที

ในช่วงตอนนี้

  • ติโม แวร์เนอร์

จนกระทั่งในตอนนี้ดาวยิงชาวเยอรมันทำประตูมิได้มา 11 เกมต่อเนื่องกันเข้าไปแล้วถ้าหากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก แถมเกมปัจจุบันในศึกเอฟเอ คัพ ที่กลุ่มเอาชนะ ลูตัน ทาวน์ 3-1 เจ้าตัวก็มาซัดจุดลูกโทษพลาดทำให้ความแน่ใจของอดีตลำแข้ง แอร์เบ ไลป์ซิก เดี๋ยวนี้ดูเหมือนย่ำแย่อย่างยิ่ง

การมาของ แวร์เนอร์ นั้นจัดว่าเข้ามาสร้างความปวดหัวให้กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด สำหรับการจัดกองทัพไม่น้อยเพราะว่าตัวเลือกในแนวรุกค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้ตอนก่อนหน้านี้อดีตกุนซือคนประเทศอังกฤษสลับให้เขายืนทั้งยังในหน้าที่แนวรุกตัวเป้า รวมทั้งเปลี่ยนแปลงมายืนเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้ายมากยิ่งขึ้นในตอนหลังเพื่อหาตำแหน่งที่จะคาดคั้นสมรรถนะของนักฟุตบอลออกมาให้ได้

อย่างไรก็แล้วแต่ตัวรุกวัย 24 ปี ก็ยังเรียกฟอร์มเก่งเหมือนกับตอนอยู่ แอร์เบ ไลป์ซิกข์ ไม่ได้เลย ซึ่งแน่ๆการเข้ามานั้น บางทีอาจเข้ามาคาดคั้นศักยภาพของเขาออกมาได้ไม่มากมายก็น้อย ด้วยเหตุว่าอย่าลืมว่า เป็นคนชาติเดียวกัน แล้วก็รู้จักกับนักฟุตบอลเลือดเบียร์อย่างดีเยี่ยม

  • ไค ฮาแวร์ทซ์

อีกหนึ่งคู่ขากลุ่มชาติเยอรมันที่ย้ายมาพร้อมๆกับ ติโม แวร์เนอร์ ซึ่งกำลังเจอชะตากรรมคล้ายกันเมื่อเขายังปรับตัวสำหรับการเล่นในพรีเมียร์ลีกมิได้เลยนับจากย้ายมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูบวงสรวง กระทั่งโดนดร็อปเป็นตัวสำรองในพักหลัง ผลบอล

ด้าน โรเบิร์ต ฮูธ สมัยก่อนแข้งชาวเยอรมัน ของ เชลซี ออกมาเอ๋ยถึงปัญหาของ ฮาแวร์ทซ์ เอาไว้ว่า “ปัญหาของ ฮาแวร์ทซ์ เป็นการขาดความเป็นจริงเป็นจัง, เสียการครองบอล แล้วก็จ่ายบอลพลาดอยู่บ่อยมาก นี่เป็นปีแรกของเขาแต่ดูท่าบางโอกาสเขาจะไม่เป็นกังวลอะไร,

บางครั้งบางคราว เชลซี บางทีอาจไม่มีหัวหน้าที่จะมารอกระตุ้นนักฟุตบอล แน่นนอนมันบางทีอาจไม่ใช่การพูดคุยที่ดีเสมอเมื่อคุณทำผลงานได้ไม่ดีแม้กระนั้นมันจำต้องเกิดขึ้น, เขาแค่ปรารถนาใครสักคนที่จะบอกเขาได้ว่าคุณควรจะมีคุณสมบัติที่ต้องยังไงในการเล่นพรีเมียร์ ลีก”

เนื่องจากว่า ฮาแวร์ทซ์ ยังอยู่ในวัยเพียงแค่ 21 ปี ทำให้เขาบางทีอาจต้องหาใครสักคนที่พร้อมให้คำปรึกษาเขา ซึ่ง ทูเคิ่ล คงจะตอบปัญหาดังกล่าว รวมทั้งการวางระบบรวมทั้งแท็คติกการเล่นที่แปรไปอาจจะเป็นผลให้เขากลับมาคืนฟอร์มโหดเหี้ยมได้อีกที

ในช่วงตอนนี้

  • อันโตนิโอ รือดิเกอร์

ปราการหลังชาวเยอรมันเคยเป็นแกนหลักให้ เชลซี ในตอนสองปีแรกนับัต้งแม้กระนั้นย้ายมาจาก โรม่า แต่ว่าภายหลัง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตอนเช้ามากุมบังเหียนตั้งแต่ฤดูก่อนนั้นก็ทำให้จังหวะลงเล่นของเขาลดลงไปเรื่อย

จนถึงในฤดูกาลนี้ กลายเป็นตัวสำรองไปโดยปริยายจากสถิติลงเล่นเพียงแค่ 4 เกมในพรีเมียร์ลีกแค่นั้น อย่างไรก็ตามการมาของ ทูเคิ่ล อาจทำให้ดาวเตะวัย 27 ปีกลับได้ได้โอกาสลงแทรกสอดเป็นตัวจริงลงเล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิม

  • คัลลัม ฮัดสัน โอดอย

การมาของบรรดาลำแข้งใหม่ อีกทั้ง ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ทซ์ รวมทั้ง ฮาคิม สิเย็ค ทำให้ปีกผู้ดีอังกฤษ มีโอกาสลงเล่น ลดน้อยลงกว่าเดิม แต่เมื่อเขาถูกส่งลงเล่น เป็นตัวสำรองนั้น เจ้าตัวก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะการกระชากลากเลื้อยขอบเส้น ที่ปั่นป่วนแนวรับคู่แข่ง ได้อย่างดีเยี่ยม โดยทำไปแล้ว 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 10 เกมในพรีเมียร์ลีก แบ่งเป็นตัวสำรอง 7 เกม

ดังนี้ ก็ขึ้นกับฟอร์มการเล่น ของบรรดาหน้าแข้งสตาร์ ในตำแหน่งเดียวกัน แม้ยังไม่อาจจะเรียกฟอร์มเก่ง ออกมาได้ ทำให้ช่องทางที่ โอดอย จะได้ลงมาวาดลวดลายมากขึ้น “ผมบากบั่นอย่างหนัก สำหรับในการซ้อม แต่ละวัน ทุ่มเทแบบ 110%

ทั้งยังยามฝึกฝนหรือแข่งขันเกม มันไม่สำคัญหรอกว่าจังหวะจะมาถึงเมื่อไร ผมก็เพียงแต่บากบั่นทำมันถัดไป ทำให้สุดความสามารถและก็หาทางมีส่วนร่วมกับกลุ่มทั้งพังทลายประตูหรือแอสซิสต์ ก็หวังว่าจากนี้โอกาสจะมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ” ดูบอลสด

“เมื่อบอลอยู่สำหรับการถือครองก็จะสร้างสรรค์ให้มากมายสุดเท่าที่ทำเป็น ผมถูกใจมองดูเกมล่วงหน้า, อ่านการเข้าทำแบบโอเพ่นเพลย์ แล้วก็แปลงบอลให้ไว อีกทั้งถูกใจเผากองหลังคู่ต่อสู้และก็ประดิษฐ์จังหวะให้ตนเองด้วย” นี่เป็นบทสัมภาษณ์ของ โอดอย ที่เคยออกมาเปิดใจกับโอกาสลงไปในสนามค่อนข้างจะจำกัดในช่วงฤดูกาลนี้ ซึ่งมันชี้ให้เห็นถถึงทัศนคติที่สุดยอดของเจ้าตัว

แปลงเป็นอีกราย Previous post แปลงเป็นอีกราย ที่ไม่อาจจะอยู่กับกลุ่มได้จนกระทั่งครบข้อตกลง
ข้อความสำคัญ Next post ข้อความสำคัญ ในอังกฤษเกี่ยวกับการจาก สิงห์บลู ไปของที่ปรึกษาชายหนุ่ม