ได้พิสูจน์ศักยภาพ ของพวกเขาสำหรับเพื่อการสู้กับกลุ่มที่มีที่ปรึกษา

ได้พิสูจน์ศักยภาพ สื่อความหมายกับทั้งคู่กลุ่มเป็นอย่างมาก

ได้พิสูจน์ศักยภาพ สำหรับเหตุการณ์เรื่องฟอร์ม การเล่นเวลานี้ “ลิเวอร์พูล” ยังคงน่าวิตก เมื่อยังไม่อาจจะ ชนะใครกันแน่ได้เลย ในเกมลีก 5 แมตช์ต่อเนื่องกัน แถมฟอร์มเกมเยี่ยม ก็ไม่ค่อยดีนัก ในช่วงฤดูกาลนี้ ในช่วงเวลาที่ สเปอร์ส ผลงานในบ้านค่อนข้างใช้ได้ในตอน 5 แมตช์

• เฮนโด้-มาติปคืนทัพใหญ่

นับว่าเป็นข่าวดีมากมายๆสำหรับ หงส์แดง ที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ โฌแอล มาติป ได้พิสูจน์ศักยภาพ คงจะฟิตสมบูรณ์ลงสู่สนามในแมตช์สำคัญเยี่ยม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยเหตุว่าทำให้แนวรับกับดินแดนกึ่งกลางของ “ลิเวอร์พูล” หนักแน่นกว่าในเกมที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ศึกเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้

กัปตันเฮนโด้ นับว่าเป็นกุญแจสำคัญในแผงมิดฟิลด์ของ “เดอะ เร้ดส์” อย่างมาก เพราะว่าถ้าหากเขาได้ลงสู่สนามในแมตช์ จะก่อให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า มีอิสระสำหรับเพื่อการเล่นเกมรุกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่า เฮนเดอร์สัน จะรอปฏิบัติภารกิจเป็นโฮลดิ้ง กองกลางที่รอเชื่อมเกม และก็ยังปฏิบัติภารกิจช่วยเกมยอมรับได้ดี

เหมือนกันกับการที่ มาติป จะได้กลับมายืนเป็นกองหลังตัวกลาง ร่วมกับ ฟาบินโญ่ ซึ่งแน่ๆว่าการได้ ตัวรุกชาวแคเมอรูน คืนสนาม ย่อมทำให้เกมรับของ “ลิเวอร์พูล” กลับมาอดทนอีกที และก็คงจะพอเพียงขัดขวางความดุเดือดของ ซน ฮึง-มิน กับ แฮร์รี่ เคน ได้ หลังออกแรงตาม

• ความมั่นใจของ ซาลาห์, มาเน่ และ ฟีร์มีโน่

เกมรุกที่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของ “ลิเวอร์พูล” ในชั่วโมงนี้ เพราะว่าอีกทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ แล้วก็ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ นัดหมายกับฟอร์มตกอย่างน่าตกใจ ซึ่งเมื่ออีกทั้งสามคนเล่นไม่ออก จังหวะในการทำแต้มของกลุ่มก็ลดลง

อย่างไรก็ดี ในเกมแพ้ “ซาตานแดง” ตกศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 มีสัญญาณในเชิงบวกอีกทั้ง ซาลาห์ รวมทั้ง “บ็อบบี้” เนื่องจากว่าในรายของ “คิง ออฟ อียิปต์” สามารถซัด 2 ประตูในเกมดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว ในขณะที่ สตาร์ลูกหนังชาวบราสิเลียน มีส่วนกับทั้งคู่ประตูด้วย

ในเวลาเดียวกันหากแม้ตอนที่ หงส์แดง ยากจนเรื่องประตูแม้กระนั้นในตอนที่ “บังโม” กับ ฟีร์มีโน่ ดวลกับ สเปอร์ส พวกเขาชอบทำผลงานได้อย่างดียิ่ง รวมทั้งมีทำประตูอยู่บ่อยๆในรายของ ซาลาหื เขาซัดไป 6 จาก 8 เกมลีกที่เจอกับ “ไก่เดือยทอง” ซึ่งพอๆกับที่ยิงใส่ วัตฟอร์ด และก็ บอร์นมัธ

ที่สำคัญเกมปัจจุบัน ซาลาห์ ก็เป็นคนเบิกประตูแรกให้กลุ่มในแมตช์เชือด 2-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อธ.ค.ที่ผ่านมา ในตอนที่ ฟีร์มีโน่ สถิติก็ดีแล้วเลิศเหมือนกันเพราะเขาซัดไป 4 ประตูจาก 5 เกมลีกหลังสุดที่ดวลกับยอดกลุ่มที่ลอนดอนเหนือ แล้วก็เป็นคนซัดประตูชัยในแมช์ปัจจุบันด้วย

หากแม้ปัจจุบันนี้ หงส์แดง จะยังไม่อยู่ในฟอร์มแชมป์ก็ตาม แม้กระนั้นด้วยสถิติของ ซาลาห์ กับ ฟีร์มีโน่ ที่ค่อยข้างจะดูดีเมื่อพบกับ สเปอร์ส งานนี้สาวก “เดอะ ค็อป” แม่น้ำคงคาดหวังที่จะมองเห็นทั้งคู่คนทำเป็นอย่างเดิมในเกมนี้ ผลบอล

• เคน-อาซน ยังคงอันตรายอยู่เสมอ

สิ่งที่ หงส์แดง จำเป็นต้องใส่ใจให้ขึ้นใจก็คือแนวรับของพวกเขาจำต้องต่อกรกับคู่แผงหน้าที่เหมาะสมที่สุดในพรีเมียร์ลีกณ เวลานี้ซึ่งก็คือ แฮร์รี่ เคน และก็ ซน-ฮึง มิน เพราะทั้งสองกำลังเล่นได้อย่างเข้ากันรู้ใจ รวมทั้งเต็มไปด้วยความมั่นใจมากมายๆ

แผงหน้ากัปตันกลุ่มชาติอังกฤษ และก็สตาร์ลูกหนังชาวประเทศเกาหลีใต้ ยิงคนละ 12 ประตูในลีกฤดูนี้ ตามหลัง โม ซาลาห์ แค่เพียง 1 ลูกแค่นั้น ซึ่งแน่ๆว่าเรื่องความแน่ใจของพวกเขาเหนือกว่าแนวรุกของ “ลิเวอร์พูล” หลายเท่า

ยิ่งไปกว่านี้ เคน กับ “อาซน” ยังมีสถิติสำหรับเพื่อการทำแอสซิสต์ให้กันและกันได้ดีเยี่ยม ยังไม่หมดเท่านั้นในส่วนของ ศูนย์หน้าเลือดผู้ดี อยู่ในตอนฟอร์มเข้าฝักสุดๆเนื่องจากซัดในเกมลีกไปแล้ว 3 แมตช์ต่อเนื่องกัน รวมทั้งกำลังลุ้นทำสถิติทำประตูในเกมลีก 4 ครั้งต่อๆกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ม.ค. 2019

ที่สำคัญ 5 ประตูหลังสุดในเกมลีกของ สเปอร์ส ชอบทำได้ในตอนครึ่งแรก เพราะฉะนั้นเรื่องเกมรุกของเจ้าของบ้านดูดีราคาแพงมากกว่าเกมบุกของแชมป์เก่า ดังนี้ หงส์แดง ก็เลยจะต้องเล่นเกมรับให้แน่นแฟ้นแม้ปรารถนากลับไปอยู่บ้านพร้อม 3 คะแนน

• แท็กติก “เฮียมู” จะหลอนเกมรุกสไตล์ “คล็อปป์” ?

ระยะเวลานี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังพบกับบทพิสูจน์อย่างมากเรื่องปรัชญาในการทำทีมที่ย้ำเกมบุกอย่างคลั่ง เนื่องจากว่าเมื่อพวกเขาพบกลุ่มที่วางแท็กติกเกมรับแน่นแฟ้น ในที่สุดสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือสถิติการการครอบครองบอลแค่นั้น

การครอบครองเกมได้เหนือกว่าไม่ใช่สิ่งที่ต้องการมากเท่าไรนักในบอลสมัยใหม่ เพราะเหตุว่าการเล่นแบบหยาบรวมทั้งโต้ตอบเร็วชอบมีคุณภาพมากกว่า ซึ่งสิ่งกลุ่มนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยแสดงให้เห็นมาแล้วยุคที่คุมเชลซี ทั้งยัง 2 ตอน, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด แล้วก็ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แน่ๆว่าเกมนี้ “เฮียมู” อาจวางหมากย้ำเกมรับแน่นแฟ้น แล้วก็คอยจังหวะข้อผิดพลาด จากเกมรุกของ หงส์แดง ซึ่งตอนก่อนหน้านี้ไม่ค่อยอันตรายมากนักโดยเฉพาะสองฟูลแบ็กอย่างเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และก็ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ครอสบอลไม่ค่อยแม่นยำราวกับตอน 2-3 ฤดูกาลก่อนหน้านี้

ฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นที่ คล็อปป์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะจะต้องทำก็คือการดึงสมรรถนะของ ติอาโก้ สำหรับในการผ่านบอลที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความมากมายในเกมรุก เพราะการเน้นเล่นงานในตำแหน่งแบ็ก ไม่น่าจะใช้คำตอบของ “เดอะ เร้ดส์” ตอนนี้ ดูบอลสด